VISA ท่องเที่ยวญี่ปุ่น : ผมไม่ได้ทำงาน ควรมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ดีครับ
ขอถามเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์ไปขอ VISA ท่องเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ
ผมไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อนเลย เพราะทำงานสัญญาจ้างอยู่ในต่างประเทศหลายปี ตอนช่วงเดือนเมษายนนี้สัญญาจ้างงานผมจะหมดลงและผมจะพาแฟนไปเที่ยวญี่ปุ่น
โดยจะเอาไมล์สะสมสายการบินแลกตั๋วไป
ปัญหาคือ สถานะผมตอนไปขอ VISA ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้คือ "ไม่มีงานทำ" เพราะเพิ่งหมดสัญญาลงและไม่ได้ต่อสัญญา
ส่วนแฟนผมเป็นพนักงานประจำบริษัท มีเงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ คำถามคือ :
1. ผมควรจะมีเงินบัญชีไปแสดงประมาณเท่าไหร่ถึงจะพอครับ (เงินผมอยู่หลายบัญชีแยกๆกัน จะได้เอาไปรวบไว้ให้พอ )
2. ถ้าผมจะทำหนังสือชี้แจงรายได้ ผมจะทำเป็นภาษาไืทยได้หรือไม่ครับ
(ผมพอมีดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากประจำในธนาคาร โอนเข้าบัญชีทุกเดือน ตกเดือนละประมาณสองหมื่นบาท คิดว่าจะเอาตรงนี้ไปชี้แจง)
หรือถ้าเพื่อนๆมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อกรณีนี้ ก็ขอเชิญนะครับ
ขอบคุณมากครับ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 1
- เงินในบัญชีไม่สำคัญเท่าความสม่ำเสมอ มียอดเข้าแน่นอนแต่ไม่มาก เขาเชื่อถือมากกว่า
- หนังสือชี้แจงอังกฤษครับ
-สมุดธนาคาร ถ้ามีเล่มเก่าที่ยาวต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยดอกเบี้ยเข้าเหมือนกันเอาไปด้วย
ปล.ผมว่าผู้ชายของ่ายนะ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเค้ารู้ว่าคุณไม่มีงานทำ โอกาสผ่านแทบไม่มีครับ ต่อให้มีเงินในบัญชีเป็นล้านก็ตาม
เพราะสิ่งที่เค้าต้องการ คือ หลักฐานที่แสดงว่าคุณจะกลับมาแน่นอน ไม่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งหลักฐานนั่นคือ การงานที่ผูกพันธ์ให้คุณกลับมาทำต่อ เช่นจดหมายรับรองการทำงาน/ใบลาจากที่ทำงาน เป็นต้น
ในกรณีนี้แนะนำให้หาสปอนเซอร์ที่มีงานทำที่แน่นอน มั่นคง ครับ แล้วเอาเงินคุณไปเข้าบัญชีเค้าเพิ่มเติมก็ได้
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 3
สำหรับคุณ ถ้าจะติด จะติดตรงที่ไม่ได้ทำงานค่ะ แต่ก็สามารถทำหนังสือชี้แจงรายได้ (ภาษาอังฤษ) บอกประวัติคร่าว ๆ สัก 3-4 บรรทัด ถ้ามีอสังหาริมทรัพย์ หรือใบรับฝากทองคำที่เป็นชื่อคุณก็แนบไปด้วยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า จขกท. น่าจะผ่านนะคะ มันไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่มีงานทำก็มีโอกาสได้วีซ่าญี่ปุ่นครับ
เพื่อนผมกินเงินจากกองมรดกและสินทรัพย์ส่วนตัว (เงินฝากธนาคาร,เงินปันผลจากกองทุนหรือหุ้น)
ประมาณว่าไม่ต้องทำงานแต่ก็มีเงินใช้จ่ายสบายๆ..... เดือนนึงหลายหมื่น
ก็แค่ชี้แจงบัญชีรายรับที่สม่ำเสมอให้เขาเห็น ชี้แจงภาระผูกพันที่มีต่อเมืองไทย ก็มีโอกาสได้วีซ่าแล้วครับ
การพิจารณาวีซ่า...ดูจากหลักใหญ่สองอย่าง
1.คุณมีเงินไปเที่ยวจริง ถ้ามีงานแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะไปใช้จ่ายก็ไม่ได้ครับ
2.มีภาระผูกพันต้องกลับประเทศไทย
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นเราเอาบัญชีประจำไปโชว์ด้วย ดอกขนาดนี้มีเงินฝากแปดหลัก ผ่านสบายๆ
เอาบัญชีที่เป็นออมทรัพย์ไปด้วยก็ดีค่ะ
ปูลู ทำวีซ่ามีตังค์เอาไปโชว์เลยไม่ต้องเหนี่ยม ^-^
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 6
ปกติเวลาทำงานมีสัญญาจ้างไหมคะ ถ้ามีแนบไปด้วยจะดีมากค่ะ ถึงปัจจุบันคุณไม่มีงานทำ แต่คุณสามารถแจ้งได้ว่าคุณเคยทำงานอะไร และกำลังรอสัญญาจ้างจากบริษัทใหม่อยู่ โดยระหว่างรอ คุณต้องการพาแฟนไปเที่ยว ได้ค่ะ
ส่วนเรื่องมีหลายบัญชีก็นำเล่มที่สำคัญๆไปค่ะ ไม่ต้องโอนเงินมารวมกันที่บัญชีเดียวหรอกค่ะ เพราะปกติเจ้าหน้าที่จะดูการๆหมุนเวียนของบัญชีไม่ใช่ตัวเลขคงเหลือค่ะ
ขอให้โชคดีค่ะ
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 7
เราว่า ไม่มีหนังสือรับรองการทำงาน นีไม่เป็นไรนะคะ สำหรับคนที่มีเงินเก็บอยู่แล้ว หนังสือรับรองการทำงานจะจำเป็นมากสำหรับคนเงินเดือนน้อย ๆ ต่างหาก
อย่างคุณเคยทำงานต่างประเทศมา คุณก็เขียนจดหมายแนบ (ภาษาอังกฤษ) เล่าไปว่าคุณเคยทำงานที่ประเทศนี้ ๆ มาก่อนในตำแหน่งอะไร แนบวีซ่าทำงานทีี่เคยอยู่ประเทศอื่นมาด้วย และก็บอกว่า ช่วงนี้หมดสัญญาจากงานเดิมและกำลังรองานใหม่ มีเวลาว่าง ก็เลยจะไปเที่ยวญี่ปุ่น และแสดงหลักฐานว่า มีเงินพอที่จะไปเที่ยวอยู่แล้ว (ไม่มีเหตุผลที่จะไปหลบหนีอะไร) และคุณมีรายได้จากตรงไหนบ้าง คิดเป็นต่อเดือนหรือต่อปี เท่าไหร่ คืออธิบายว่าคุณเนี่ยสถานะการเงินมั่นคงแน่นอนแม้ว่าจะไม่มีเงินเดือน และหลังจากเที่ยวมีแนวโน้มว่าจะไปทำงาน ที่ไหน อย่างไร (แต่ง ๆ เอาไว้ก่อนก็ได้)
เอาสมุดบัญชีที่มีเงินเข้าทุกเดือน ทุก ๆ เล่ม ทั้งฝากประจำและเงินเดือน (นอกจากเงินเดือนแล้ว ยังมีศักยภาพส่งเงินแบบฝากประจำอีกเอ้า) ก็มีหลักฐานแสดงให้ดู
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 8
ความเห็นแบบ คห 2 ไม่จริงครับ อย่าเชื่อเด็ดขาด
ยังงี้คนเป็นช่างภาพอิสระหรือทำฟรีแลนซ์
ก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี
ถ้าเป็นวีซ่าอังกฤษหรือเมกา ยังพอเชื่อได้
คนชอบพูดกันว่าวีซ่าญี่ปุ่นขอยาก
เพียงเพราะไม่มีอะไรแสดงว่าผูกพันในไทย
เงินในบัญชี จขกท นั่นแหละคือความผูกพันในไทย
เขาพร้อมจะให้วีซ่ากับทุกคนครับ
แต่เขาอยากแน่ใจว่า จขกท จะมีชีวิตรอดอยู่ได้
ในขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศของเขา
โดยไม่ได้เป็นภาระให้กับประเทศของเขาครับ
ขอไปเลยครับ ไม่มีอาชีพก็เขียนไปครับ
เพราะว่างก็เลยจะไปเที่ยว
เคยมีอยู่ช่วงนึงเมื่อนานมาแล้ว
เป็นช่วงที่ผมเปลี่ยนงานแล้วอยากพักผ่อนก่อนหางานทำใหม่
ผมก็บอกไปว่าว่างงาน ช่วงนี้อยากพักผ่อน เลยอยากไปเที่ยว
เงินเก็บก็ไม่ได้มีมากเท่าไร และตั้งใจอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือน
สุดท้ายแล้วผมก็ได้ไปเที่ยวตามที่ตั้งใจไว้
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 9
เห็นด้วยกับหลายความเห็นเรื่องเงินในบัญชี คือมีเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ามีการผ่านเข้าออก มีที่มาที่ไป (ว่ามีรายได้ประจำ) เงินที่อยู่ในบัญชีเฉย ๆ จนท.เค้าคิดว่ายืมใครมาแต่งบัญชีก็ได้
การมีงานทำหรือไม่มี มันฟันธงไม่ได้ว่าได้แน่หรือไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายอย่าง คนที่ไม่มีงานทำ (คือรวยไม่ต้องทำก็มีกิน) และขอวีซ่าผ่าน เค้าอาจมีประวัติการเดินทางประเทศนู้นนี้มาก่อน และกลับตามกำหนดทุกครั้ง ไม่เคยมีประวัติเสีย หรือมีอะไรบ่งบอกว่ามีพันธะหรือภาระผูกพันที่ต้องกลับแน่ ๆ อาจจะเป็นที่อายุผู้ขอ (แก่ได้ง่ายกว่าหนุ่มสาว ผู้ชายได้ง่ายกว่าผู้หญิง) สถานภาพ (โสดได้ยากกว่าแต่งงานแล้ว) เวลาที่ขอ (ขอไปเป็นอาทิตย์น่าเชื่อถือว่าไปเที่ยวมากกว่าขอเป็นเดือน)
ฉะนั้นการที่คน ๆ นึงไม่ได้ทำงานแล้วขอวีซ่าผ่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นที่ไม่มีงานทำก็จะผ่านด้วย ตรงกันข้ามคนมีงานทำก็อาจจะไม่ผ่านก็ได้ งงป่ะ อิ ๆ เราว่ามันต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ มารองรับน่ะ
เอาใจช่วยให้ผ่านละกัน เพราะ คุณเพิ่งหมดสัญญางานแล้วเดินทาง ไม่ค่อยส่อว่าเดือดร้อนเรื่องเงินและงาน (ถึงขนาดหนีวีซ่าเพื่อลักลอบทำงาน) คุณเดินทางกับแฟน (ที่มีงานเป็นเรื่องราว) ก็ดูน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก ว่าน่าจะแค่ไปเที่ยวจริง ๆ
ทีนี้ก็เหลือหลักฐานการเงิน มีไรก็โชว์ให้หมดเลย
เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณสำหรับความเห็นหลากหลายจากเพื่อนๆครับ
ตอนนี้ผมคิดว่าคงจะทำจดหมายชี้แจงลักษณะงานและรายได้เป็นภาษาอังกฤษไปสักฉบับ โดยมีเอกสารแนบตัวจริงคือ
1. หนังสือรับรับรองประวัติการทำงานจากบริษัท
2. เอกสารสัญญาจ้างย้อนหลัง 6 ปี
3. บัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 ปี
4. passport ย้อนหลัง 2 เล่ม
5. บัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีออมทรัพย์
ตอนนี้คิดว่าเตรียมไปแค่นี้คงน่าจะพอแล้ว ถ้าทางสถานฑูตไม่เมตตา ผมก็คงจะต้องไปเที่ยวที่อื่นแทน ....(แต่แฟนผมอยากดูดอกซากุระบาน แล้วจะไปดูที่ไหนเนี่ย)
เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55
จองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน จองรถเช่า
http://www.expedia.co.th
เว็บค้นหาเที่ยวบิน Jetradar
http://www.jetradar.co.th
เว็บจองโรงแรม Agoda
http://www.agoda.com
เว็บเปรียบเทียบราคาโรงแรม
http://www.hotelscombined.co.th
เว็บจองโรงแรม Booking
http://www.booking.com
เว็บจองโรงแรม Hoteltravel
http://www.hoteltravel.com
ขอถามเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์ไปขอ VISA ท่องเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ
ผมไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อนเลย เพราะทำงานสัญญาจ้างอยู่ในต่างประเทศหลายปี ตอนช่วงเดือนเมษายนนี้สัญญาจ้างงานผมจะหมดลงและผมจะพาแฟนไปเที่ยวญี่ปุ่น
โดยจะเอาไมล์สะสมสายการบินแลกตั๋วไป
ปัญหาคือ สถานะผมตอนไปขอ VISA ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้คือ "ไม่มีงานทำ" เพราะเพิ่งหมดสัญญาลงและไม่ได้ต่อสัญญา
ส่วนแฟนผมเป็นพนักงานประจำบริษัท มีเงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ คำถามคือ :
1. ผมควรจะมีเงินบัญชีไปแสดงประมาณเท่าไหร่ถึงจะพอครับ (เงินผมอยู่หลายบัญชีแยกๆกัน จะได้เอาไปรวบไว้ให้พอ )
2. ถ้าผมจะทำหนังสือชี้แจงรายได้ ผมจะทำเป็นภาษาไืทยได้หรือไม่ครับ
(ผมพอมีดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากประจำในธนาคาร โอนเข้าบัญชีทุกเดือน ตกเดือนละประมาณสองหมื่นบาท คิดว่าจะเอาตรงนี้ไปชี้แจง)
หรือถ้าเพื่อนๆมีคำแนะนำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อกรณีนี้ ก็ขอเชิญนะครับ
ขอบคุณมากครับ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 1
- เงินในบัญชีไม่สำคัญเท่าความสม่ำเสมอ มียอดเข้าแน่นอนแต่ไม่มาก เขาเชื่อถือมากกว่า
- หนังสือชี้แจงอังกฤษครับ
-สมุดธนาคาร ถ้ามีเล่มเก่าที่ยาวต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยดอกเบี้ยเข้าเหมือนกันเอาไปด้วย
ปล.ผมว่าผู้ชายของ่ายนะ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเค้ารู้ว่าคุณไม่มีงานทำ โอกาสผ่านแทบไม่มีครับ ต่อให้มีเงินในบัญชีเป็นล้านก็ตาม
เพราะสิ่งที่เค้าต้องการ คือ หลักฐานที่แสดงว่าคุณจะกลับมาแน่นอน ไม่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งหลักฐานนั่นคือ การงานที่ผูกพันธ์ให้คุณกลับมาทำต่อ เช่นจดหมายรับรองการทำงาน/ใบลาจากที่ทำงาน เป็นต้น
ในกรณีนี้แนะนำให้หาสปอนเซอร์ที่มีงานทำที่แน่นอน มั่นคง ครับ แล้วเอาเงินคุณไปเข้าบัญชีเค้าเพิ่มเติมก็ได้
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 3
สำหรับคุณ ถ้าจะติด จะติดตรงที่ไม่ได้ทำงานค่ะ แต่ก็สามารถทำหนังสือชี้แจงรายได้ (ภาษาอังฤษ) บอกประวัติคร่าว ๆ สัก 3-4 บรรทัด ถ้ามีอสังหาริมทรัพย์ หรือใบรับฝากทองคำที่เป็นชื่อคุณก็แนบไปด้วยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่า จขกท. น่าจะผ่านนะคะ มันไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่มีงานทำก็มีโอกาสได้วีซ่าญี่ปุ่นครับ
เพื่อนผมกินเงินจากกองมรดกและสินทรัพย์ส่วนตัว (เงินฝากธนาคาร,เงินปันผลจากกองทุนหรือหุ้น)
ประมาณว่าไม่ต้องทำงานแต่ก็มีเงินใช้จ่ายสบายๆ..... เดือนนึงหลายหมื่น
ก็แค่ชี้แจงบัญชีรายรับที่สม่ำเสมอให้เขาเห็น ชี้แจงภาระผูกพันที่มีต่อเมืองไทย ก็มีโอกาสได้วีซ่าแล้วครับ
การพิจารณาวีซ่า...ดูจากหลักใหญ่สองอย่าง
1.คุณมีเงินไปเที่ยวจริง ถ้ามีงานแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะไปใช้จ่ายก็ไม่ได้ครับ
2.มีภาระผูกพันต้องกลับประเทศไทย
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นเราเอาบัญชีประจำไปโชว์ด้วย ดอกขนาดนี้มีเงินฝากแปดหลัก ผ่านสบายๆ
เอาบัญชีที่เป็นออมทรัพย์ไปด้วยก็ดีค่ะ
ปูลู ทำวีซ่ามีตังค์เอาไปโชว์เลยไม่ต้องเหนี่ยม ^-^
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 6
ปกติเวลาทำงานมีสัญญาจ้างไหมคะ ถ้ามีแนบไปด้วยจะดีมากค่ะ ถึงปัจจุบันคุณไม่มีงานทำ แต่คุณสามารถแจ้งได้ว่าคุณเคยทำงานอะไร และกำลังรอสัญญาจ้างจากบริษัทใหม่อยู่ โดยระหว่างรอ คุณต้องการพาแฟนไปเที่ยว ได้ค่ะ
ส่วนเรื่องมีหลายบัญชีก็นำเล่มที่สำคัญๆไปค่ะ ไม่ต้องโอนเงินมารวมกันที่บัญชีเดียวหรอกค่ะ เพราะปกติเจ้าหน้าที่จะดูการๆหมุนเวียนของบัญชีไม่ใช่ตัวเลขคงเหลือค่ะ
ขอให้โชคดีค่ะ
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 7
เราว่า ไม่มีหนังสือรับรองการทำงาน นีไม่เป็นไรนะคะ สำหรับคนที่มีเงินเก็บอยู่แล้ว หนังสือรับรองการทำงานจะจำเป็นมากสำหรับคนเงินเดือนน้อย ๆ ต่างหาก
อย่างคุณเคยทำงานต่างประเทศมา คุณก็เขียนจดหมายแนบ (ภาษาอังกฤษ) เล่าไปว่าคุณเคยทำงานที่ประเทศนี้ ๆ มาก่อนในตำแหน่งอะไร แนบวีซ่าทำงานทีี่เคยอยู่ประเทศอื่นมาด้วย และก็บอกว่า ช่วงนี้หมดสัญญาจากงานเดิมและกำลังรองานใหม่ มีเวลาว่าง ก็เลยจะไปเที่ยวญี่ปุ่น และแสดงหลักฐานว่า มีเงินพอที่จะไปเที่ยวอยู่แล้ว (ไม่มีเหตุผลที่จะไปหลบหนีอะไร) และคุณมีรายได้จากตรงไหนบ้าง คิดเป็นต่อเดือนหรือต่อปี เท่าไหร่ คืออธิบายว่าคุณเนี่ยสถานะการเงินมั่นคงแน่นอนแม้ว่าจะไม่มีเงินเดือน และหลังจากเที่ยวมีแนวโน้มว่าจะไปทำงาน ที่ไหน อย่างไร (แต่ง ๆ เอาไว้ก่อนก็ได้)
เอาสมุดบัญชีที่มีเงินเข้าทุกเดือน ทุก ๆ เล่ม ทั้งฝากประจำและเงินเดือน (นอกจากเงินเดือนแล้ว ยังมีศักยภาพส่งเงินแบบฝากประจำอีกเอ้า) ก็มีหลักฐานแสดงให้ดู
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 8
ความเห็นแบบ คห 2 ไม่จริงครับ อย่าเชื่อเด็ดขาด
ยังงี้คนเป็นช่างภาพอิสระหรือทำฟรีแลนซ์
ก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี
ถ้าเป็นวีซ่าอังกฤษหรือเมกา ยังพอเชื่อได้
คนชอบพูดกันว่าวีซ่าญี่ปุ่นขอยาก
เพียงเพราะไม่มีอะไรแสดงว่าผูกพันในไทย
เงินในบัญชี จขกท นั่นแหละคือความผูกพันในไทย
เขาพร้อมจะให้วีซ่ากับทุกคนครับ
แต่เขาอยากแน่ใจว่า จขกท จะมีชีวิตรอดอยู่ได้
ในขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศของเขา
โดยไม่ได้เป็นภาระให้กับประเทศของเขาครับ
ขอไปเลยครับ ไม่มีอาชีพก็เขียนไปครับ
เพราะว่างก็เลยจะไปเที่ยว
เคยมีอยู่ช่วงนึงเมื่อนานมาแล้ว
เป็นช่วงที่ผมเปลี่ยนงานแล้วอยากพักผ่อนก่อนหางานทำใหม่
ผมก็บอกไปว่าว่างงาน ช่วงนี้อยากพักผ่อน เลยอยากไปเที่ยว
เงินเก็บก็ไม่ได้มีมากเท่าไร และตั้งใจอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือน
สุดท้ายแล้วผมก็ได้ไปเที่ยวตามที่ตั้งใจไว้
เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 9
เห็นด้วยกับหลายความเห็นเรื่องเงินในบัญชี คือมีเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ามีการผ่านเข้าออก มีที่มาที่ไป (ว่ามีรายได้ประจำ) เงินที่อยู่ในบัญชีเฉย ๆ จนท.เค้าคิดว่ายืมใครมาแต่งบัญชีก็ได้
การมีงานทำหรือไม่มี มันฟันธงไม่ได้ว่าได้แน่หรือไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายอย่าง คนที่ไม่มีงานทำ (คือรวยไม่ต้องทำก็มีกิน) และขอวีซ่าผ่าน เค้าอาจมีประวัติการเดินทางประเทศนู้นนี้มาก่อน และกลับตามกำหนดทุกครั้ง ไม่เคยมีประวัติเสีย หรือมีอะไรบ่งบอกว่ามีพันธะหรือภาระผูกพันที่ต้องกลับแน่ ๆ อาจจะเป็นที่อายุผู้ขอ (แก่ได้ง่ายกว่าหนุ่มสาว ผู้ชายได้ง่ายกว่าผู้หญิง) สถานภาพ (โสดได้ยากกว่าแต่งงานแล้ว) เวลาที่ขอ (ขอไปเป็นอาทิตย์น่าเชื่อถือว่าไปเที่ยวมากกว่าขอเป็นเดือน)
ฉะนั้นการที่คน ๆ นึงไม่ได้ทำงานแล้วขอวีซ่าผ่าน ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นที่ไม่มีงานทำก็จะผ่านด้วย ตรงกันข้ามคนมีงานทำก็อาจจะไม่ผ่านก็ได้ งงป่ะ อิ ๆ เราว่ามันต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ มารองรับน่ะ
เอาใจช่วยให้ผ่านละกัน เพราะ คุณเพิ่งหมดสัญญางานแล้วเดินทาง ไม่ค่อยส่อว่าเดือดร้อนเรื่องเงินและงาน (ถึงขนาดหนีวีซ่าเพื่อลักลอบทำงาน) คุณเดินทางกับแฟน (ที่มีงานเป็นเรื่องราว) ก็ดูน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก ว่าน่าจะแค่ไปเที่ยวจริง ๆ
ทีนี้ก็เหลือหลักฐานการเงิน มีไรก็โชว์ให้หมดเลย
เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณสำหรับความเห็นหลากหลายจากเพื่อนๆครับ
ตอนนี้ผมคิดว่าคงจะทำจดหมายชี้แจงลักษณะงานและรายได้เป็นภาษาอังกฤษไปสักฉบับ โดยมีเอกสารแนบตัวจริงคือ
1. หนังสือรับรับรองประวัติการทำงานจากบริษัท
2. เอกสารสัญญาจ้างย้อนหลัง 6 ปี
3. บัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 ปี
4. passport ย้อนหลัง 2 เล่ม
5. บัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีออมทรัพย์
ตอนนี้คิดว่าเตรียมไปแค่นี้คงน่าจะพอแล้ว ถ้าทางสถานฑูตไม่เมตตา ผมก็คงจะต้องไปเที่ยวที่อื่นแทน ....(แต่แฟนผมอยากดูดอกซากุระบาน แล้วจะไปดูที่ไหนเนี่ย)
เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55
จองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน จองรถเช่า
http://www.expedia.co.th
เว็บค้นหาเที่ยวบิน Jetradar
http://www.jetradar.co.th
เว็บจองโรงแรม Agoda
http://www.agoda.com
เว็บเปรียบเทียบราคาโรงแรม
http://www.hotelscombined.co.th
เว็บจองโรงแรม Booking
http://www.booking.com
เว็บจองโรงแรม Hoteltravel
http://www.hoteltravel.com