ปรึกษาเรื่องหลักฐานการขอวีซ่าญี่ปุ่น
อยากปรึกษาครับ
ผมเป็นข้าราชการคนหนึ่งที่มีเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ มากกว่า 20000 บาท เคยขอวีซ่าญี่ปุ่นและได้รับแล้ว (คราวนั้นไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีธนาคาร เพราะเข้าข่ายข้าราชการที่มีเงินเดือนมากกว่า 20000 บาท ซึ่งสามารถแสดงได้ในหนังสือรับรองการทำงาน) แต่ก็ไม่ได้เดินทาง เนื่องจากเป็นช่วงสินามิพอดี
ตอนนี้ผมลามาเรียนต่อ ซึ่งจะทำให้ได้รับแต่เงินเดือนอย่างเดียว (ไม่มีเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ) ดังนั้นในหนังสือรับรองการทำงานจะไม่สามารถแสดงรายได้ถึง 20000 บาท) และเงินเก็บส่วนใหญ่ก็อยู่ใน LTF และ RMF มีเป็นเงินสดในธนาคารไม่มาก
1. ไม่ค่อยมั่นใจในการขอวีซ่าครั้งนี้เลยอ่ะครับ การแสดงบัญชี LTF, RMF น่าจะช่วยอะไรได้มั้ยครับ และมีอะไรที่อาจจะพอแสดงเพิ่มเติมได้อีกบ้างครับ
2. หลักฐานที่ต้องแสดงคราวนี้ ต้องแสดงทั้งหนังสือรับรองการทำงาน และหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย รวมทั้งสมุดบัญชีธนาคารเลยใช่หรือไม่ครับ
จากคุณ : Go JaPaN
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 02:05:47 A:110.169.35.136 X: TicketID:324539
bookmark เก็บเข้าคลังกระทู้ ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ หน้าหลัก กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป
ความคิดเห็นที่ 1
ข้าราชการไม่น่ามีปัญหานะคะ แสดงหลักฐานที่ทำให้เค้าเห็นว่าเราต้องกลับมาเมืองไทยแน่นอนน่าจะพอแล้ว เรื่องเงินในบัญชีไม่น่าเป็นปัญหาค่ะ
จากคุณ : baboa_tu
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 08:04:00
ความคิดเห็นที่ 2
เอกสารรับรองเงินเดือนไม่จำเป็นต้องใช้นะคะ ครั้งที่แล้วเราขอบริษัทมาสองใบ รับรองเงินเดือนและรับรองการเป็นพนักงานบริษัท เขาก็รับไปใบเดียวคือใบรับรองการเป็นพนักงานบริษัท
เพราะฉะนั้นขอแค่หนังสือรับรองการทำงาน รับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา และซีร็อกสมุดบัญชีย้อนหลังหกเดือนก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเงินในบัญชี แค่มีเดินตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องมากก็ได้ค่ะ
ปรกติถ้าเดินทางมาแล้วหนึ่งครั้งภายในห้าปี ไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานทางการเงินอีก แต่กรณีที่ได้รับวีซ่าแล้วไม่ได้ไป ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้าข่ายไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานทางการเงินหรือเปล่านะคะ เตรียมพร้อมไปก่อนดีกว่าค่ะ
จากคุณ : Umbrella_yuuri
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 10:31:44
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ
อยากสอบถามเพิ่มเติมว่า ถ้าครั้งนี้ใช้สมุดบัญชีแม่แสดง โดยระบุว่า แม่เป็นผู้อุปการะค่าใช้จ่ายครั้งนี้ จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเราลดลงมั้ยครับ (แบบว่า อะไรกันทำงานแล้ว ยังต้องให้คนอื่นเป็นผู้อุปการะอีกหรอ แต่ถ้าคิดอีกแง่นึง ก็ใช่อยู่ ทำงานแล้ว แต่ตอนนี้เค้าลาเรียนนะ ก็อาจกลับเข้าสู่ mode ภาวะพึ่งพิงอีกก็ได้หนิ) คุณคิดเห็นเรื่องนี้ยังไงกันบ้างครับ
ปล. ความเห็นที่ 2 ครับ เรื่องที่เค้าเอาแต่ใบรับรองการเป็นพนักงานบริษัทอย่างเดียว ไม่เอาใบรับรองเงินเดือนเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ แต่ผมคิดว่าในกรณีนี้น่าจะทำให้การพิจารณาดูตัวเลขในสมุดบัญชีธนาคารมีความสำคัญมากขึ้นรึป่าวครับ
จากคุณ : จขกท. Go JaPaN
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 13:54:37 A:110.169.33.246 X: TicketID:324539
ความคิดเห็นที่ 4
ก็อธิบายว่ามีสถานะเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่สิคะ โดยเอาหลักฐานบัตรนักศีกษา หรือให้มหาวิทยาลัยออกหนังสือรับรองว่า คุณได้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้จริง สาขาวิชาอะไร ก็ว่าไป
และสามารถแนบบัญชีของแม่ด้วยได้ด้วยค่ะ บอกว่าเป็นผู้ช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีบัญชีส่วนตัวซัก 5-6 หมื่นบาท น่าจะไม่มีปัญหานะคะ ก็ยื่นทั้งของคุณและของแม่ไปเลยค่ะ (เขียนจดหมายแนะนำตัวนะคะ หรือว่าเขียนอธิบายในตอนท้ายของแบบฟอร์มขอวีซ่าก็ได้ค่ะ เช่น
since i am currently a student, the expense for this trip will be covered by my saving account and partly from my mother's account.
จากคุณ : Freedom of Life
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 17:57:31
ความคิดเห็นที่ 5
ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะลามาเรียน แต่ก็ยังได้รับเงินเดือนจากทางราชการอยู่ทุกเดือนใช่ไหมคะ?
ถ้าใช่ ก็แนะนำว่ายื่นสมุดบัญชีตัวเองดีกว่าค่ะ เงินไม่มากก็ไม่เป็นอะไร
ตอนเราไปครั้งแรก เราเป็นนิสิตปริญญาโท แต่เราได้รับเงินเดือนเป็นทุนจากบริษัทเข้าสมุดบัญชีตัวเองทุกเดือน เก็บมาเป็นเวลาปีครึ่ง
เราก็ยื่นว่าขอใช้สมุดบัญชีตัวเองแม้ว่าจะยังเป็นนิสิตไม่ได้ทำงาน เขาก็โอเครับไปตามนั้นไม่ต้องยื่นบัญชีผู้ปกครองเพิ่มเติม แต่ก็มีให้เขียนว่าพ่อแม่ทำอาชีพอะไรน่ะค่ะ
ในกรณีนี้เองก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องยื่นสมุดบัญชีพ่อแม่เพิ่มเติมค่ะ
จากคุณ : Umbrella_yuuri
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 00:47:05
อยากปรึกษาครับ
ผมเป็นข้าราชการคนหนึ่งที่มีเงินเดือนรวมกับเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ มากกว่า 20000 บาท เคยขอวีซ่าญี่ปุ่นและได้รับแล้ว (คราวนั้นไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีธนาคาร เพราะเข้าข่ายข้าราชการที่มีเงินเดือนมากกว่า 20000 บาท ซึ่งสามารถแสดงได้ในหนังสือรับรองการทำงาน) แต่ก็ไม่ได้เดินทาง เนื่องจากเป็นช่วงสินามิพอดี
ตอนนี้ผมลามาเรียนต่อ ซึ่งจะทำให้ได้รับแต่เงินเดือนอย่างเดียว (ไม่มีเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ) ดังนั้นในหนังสือรับรองการทำงานจะไม่สามารถแสดงรายได้ถึง 20000 บาท) และเงินเก็บส่วนใหญ่ก็อยู่ใน LTF และ RMF มีเป็นเงินสดในธนาคารไม่มาก
1. ไม่ค่อยมั่นใจในการขอวีซ่าครั้งนี้เลยอ่ะครับ การแสดงบัญชี LTF, RMF น่าจะช่วยอะไรได้มั้ยครับ และมีอะไรที่อาจจะพอแสดงเพิ่มเติมได้อีกบ้างครับ
2. หลักฐานที่ต้องแสดงคราวนี้ ต้องแสดงทั้งหนังสือรับรองการทำงาน และหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย รวมทั้งสมุดบัญชีธนาคารเลยใช่หรือไม่ครับ
จากคุณ : Go JaPaN
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 02:05:47 A:110.169.35.136 X: TicketID:324539
bookmark เก็บเข้าคลังกระทู้ ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ หน้าหลัก กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป
ความคิดเห็นที่ 1
ข้าราชการไม่น่ามีปัญหานะคะ แสดงหลักฐานที่ทำให้เค้าเห็นว่าเราต้องกลับมาเมืองไทยแน่นอนน่าจะพอแล้ว เรื่องเงินในบัญชีไม่น่าเป็นปัญหาค่ะ
จากคุณ : baboa_tu
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 08:04:00
ความคิดเห็นที่ 2
เอกสารรับรองเงินเดือนไม่จำเป็นต้องใช้นะคะ ครั้งที่แล้วเราขอบริษัทมาสองใบ รับรองเงินเดือนและรับรองการเป็นพนักงานบริษัท เขาก็รับไปใบเดียวคือใบรับรองการเป็นพนักงานบริษัท
เพราะฉะนั้นขอแค่หนังสือรับรองการทำงาน รับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา และซีร็อกสมุดบัญชีย้อนหลังหกเดือนก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเงินในบัญชี แค่มีเดินตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องมากก็ได้ค่ะ
ปรกติถ้าเดินทางมาแล้วหนึ่งครั้งภายในห้าปี ไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานทางการเงินอีก แต่กรณีที่ได้รับวีซ่าแล้วไม่ได้ไป ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้าข่ายไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานทางการเงินหรือเปล่านะคะ เตรียมพร้อมไปก่อนดีกว่าค่ะ
จากคุณ : Umbrella_yuuri
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 10:31:44
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ
อยากสอบถามเพิ่มเติมว่า ถ้าครั้งนี้ใช้สมุดบัญชีแม่แสดง โดยระบุว่า แม่เป็นผู้อุปการะค่าใช้จ่ายครั้งนี้ จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเราลดลงมั้ยครับ (แบบว่า อะไรกันทำงานแล้ว ยังต้องให้คนอื่นเป็นผู้อุปการะอีกหรอ แต่ถ้าคิดอีกแง่นึง ก็ใช่อยู่ ทำงานแล้ว แต่ตอนนี้เค้าลาเรียนนะ ก็อาจกลับเข้าสู่ mode ภาวะพึ่งพิงอีกก็ได้หนิ) คุณคิดเห็นเรื่องนี้ยังไงกันบ้างครับ
ปล. ความเห็นที่ 2 ครับ เรื่องที่เค้าเอาแต่ใบรับรองการเป็นพนักงานบริษัทอย่างเดียว ไม่เอาใบรับรองเงินเดือนเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ แต่ผมคิดว่าในกรณีนี้น่าจะทำให้การพิจารณาดูตัวเลขในสมุดบัญชีธนาคารมีความสำคัญมากขึ้นรึป่าวครับ
จากคุณ : จขกท. Go JaPaN
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 13:54:37 A:110.169.33.246 X: TicketID:324539
ความคิดเห็นที่ 4
ก็อธิบายว่ามีสถานะเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่สิคะ โดยเอาหลักฐานบัตรนักศีกษา หรือให้มหาวิทยาลัยออกหนังสือรับรองว่า คุณได้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้จริง สาขาวิชาอะไร ก็ว่าไป
และสามารถแนบบัญชีของแม่ด้วยได้ด้วยค่ะ บอกว่าเป็นผู้ช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีบัญชีส่วนตัวซัก 5-6 หมื่นบาท น่าจะไม่มีปัญหานะคะ ก็ยื่นทั้งของคุณและของแม่ไปเลยค่ะ (เขียนจดหมายแนะนำตัวนะคะ หรือว่าเขียนอธิบายในตอนท้ายของแบบฟอร์มขอวีซ่าก็ได้ค่ะ เช่น
since i am currently a student, the expense for this trip will be covered by my saving account and partly from my mother's account.
จากคุณ : Freedom of Life
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 17:57:31
ความคิดเห็นที่ 5
ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะลามาเรียน แต่ก็ยังได้รับเงินเดือนจากทางราชการอยู่ทุกเดือนใช่ไหมคะ?
ถ้าใช่ ก็แนะนำว่ายื่นสมุดบัญชีตัวเองดีกว่าค่ะ เงินไม่มากก็ไม่เป็นอะไร
ตอนเราไปครั้งแรก เราเป็นนิสิตปริญญาโท แต่เราได้รับเงินเดือนเป็นทุนจากบริษัทเข้าสมุดบัญชีตัวเองทุกเดือน เก็บมาเป็นเวลาปีครึ่ง
เราก็ยื่นว่าขอใช้สมุดบัญชีตัวเองแม้ว่าจะยังเป็นนิสิตไม่ได้ทำงาน เขาก็โอเครับไปตามนั้นไม่ต้องยื่นบัญชีผู้ปกครองเพิ่มเติม แต่ก็มีให้เขียนว่าพ่อแม่ทำอาชีพอะไรน่ะค่ะ
ในกรณีนี้เองก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องยื่นสมุดบัญชีพ่อแม่เพิ่มเติมค่ะ
จากคุณ : Umbrella_yuuri
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 00:47:05
จองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน จองรถเช่า
http://www.expedia.co.th
เว็บค้นหาเที่ยวบิน Jetradar
http://www.jetradar.co.th
เว็บจองโรงแรม Agoda
http://www.agoda.com
เว็บเปรียบเทียบราคาโรงแรม
http://www.hotelscombined.co.th
เว็บจองโรงแรม Booking
http://www.booking.com
เว็บจองโรงแรม Hoteltravel
http://www.hoteltravel.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น